คำว่า 'PM-Adjustment' และ 'Calibration' มักจะใช้แทนกันได้ในสำนวนทั่วไป อย่างไรก็ตาม ในแง่วิทยาศาสตร์ (Scientific) และมาตรวิทยา (Metrology) แล้ว สิ่งนี้ไม่ถูกต้อง 'PM-Adjustment' และ 'Calibration' เป็นขั้นตอนที่ถูกกำหนดไว้ ซึ่งมีความแตกต่างกันอ่างสิ้นเชิง
Adjustment หมายถึง การทำให้เครื่องมือวัดเข้าสู่สภาวะการทำงานที่เหมาะสมต่อการใช้งาน
Calibration หมายถึง การปฏิบัติการเปรียบเทียบผลการวัดระหว่างเครื่องมือวัดที่ไม่รู้ค่าความถูกต้อง กับ เครื่องมือหรืออุปกรณ์มาตรฐานที่รู้ค่า และมีความถูกต้องเหนือกว่า เพื่อหาค่าความสัมพันธ์ระหว่างกัน และ รายงานผล
การ PM-Adjustment และ Calibration มักจะต้องทำทั้งสองอย่างตามขั้นตอน คือ การ Adjustment ก่อนการ Calibration
ความสำคัญของประวัติการสอบเทียบ (Certificate record)
ทั้งขั้นตอนการ 'Adjustment (PM)' และ 'Calibration' จะต้องมีการจัดทำเป็นเอกสารเสมอ บันทึกการสอบเทียบจำเป็นต่อการสร้างความเสถียร และประสิทธิภาพของเครื่องมือวัด และยัง สามารถใช้ในการวิเคราะห์สาเหตุของการเกิดอุบัติการณ์ (Incident) ที่เกิดจากความผิดพลาดของเครื่องมือวัดได้ ในสถานการณ์ที่รุนแรง ประวัติการสอบเทียบของเครื่องมือวัดอาจกลายเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญในข้อพิพาทหรือคดีความในศาลได้
ดังนั้นการจัดทำเอกสารการสอบเทียบ (Calibration record) มีความสำคัญเท่ากับการส่งเครื่องมือสอบเทียบ
ความถี่ของการสอบเทียบ
ไม่มีกฎตายตัวที่จะกำหนดความถี่ที่ต้องการของการสอบเทียบสำหรับเครื่องมือวัดใด ๆ มีสองปัจจัยหลักที่ต้องพิจารณา:
1. ดริฟท์ (Drift)
เครื่องมือทั้งหมดล่องลอยไปตามกาลเวลา เครื่องมือใหม่ควรได้รับการสอบเทียบบ่อยขึ้นเพื่อกำหนดลักษณะการดริฟท์ สภาพแวดล้อมที่ใช้เครื่องมือยังก่อให้เกิดการดริฟท์ เครื่องมือที่ใช้ในสภาพแวดล้อมที่รุนแรงหรืออาจสร้างความเสียหายจะต้องทำการสอบเทียบบ่อยขึ้น
2. ความไม่แน่นอนของการวัดที่กำหนด (Required measurement uncertainty)
หากต้องการค่าความไม่แน่นอนในการวัดต่ำหรือมีระดับความเชื่อมั่นสูง ควรสอบเทียบเครื่องมือบ่อยๆ ช่วงเวลาการสอบเทียบใหม่ที่นานขึ้นก็เพียงพอแล้วในกรณีที่ยอมรับความไม่แน่นอนในการวัดที่มากขึ้นได้